คู่มือวิธีเล่นบาคาร่า ทำความเข้าใจได้ง่ายๆ ในไม่กี่วินาที
  • เตรียมตัวและวางแผน ก่อนที่เราจะเริ่มเล่นบาคาร่า เราต้องตั้งงบที่เราจะใช้ในเกมและยึดตามนั้นอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เสียเงินมากเกินไป
  • การจัดการเงิน สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเล่นบาคาร่าได้อย่างยั่งยืนและป้องกันไม่ให้เสียเงินมากเกินไป เราต้องตั้งงบเดิมพันที่เหมาะสมและเล่นเสียเท่าที่เราสามารถรับได้ จำไว้เสมอว่าเป็นเงินที่ใช้สำหรับความสนุกและไม่หวังว่าจะได้กลับคืน
  • วางเดิมพันและแจกไพ่ เมื่อเราเตรียมตัวและวางแผนได้แล้ว เราก็มาเริ่มเล่นบาคาร่ากันเลย เราต้องเลือกและวางเดิมพันก่อนที่จะแจกไพ่ โดยเลือกแทงระหว่างฝั่งแบงเกอร์ เพลเยอร์ หรือเสมอ แล้วรอดูผล
  • การเล่นและการคำนวณแต้ม แต่ละรอบจะมีการแจกไพ่ในแบบต่าง ๆ ซึ่งเราต้องรู้วิธีการเล่นและการคำนวณแต้มในแต่ละรอบ รวมถึงการจั่วไพ่ใบที่สามของแต่ละฝั่งด้วย หากชนะเราก็จะได้เงินรางวัล แต่ถ้าแพ้ก็จะเสียเดิมพันไป
  • ชนะด้วยแต้ม Natural Win เมื่อไพ่สองใบแรกที่แจกมีแต้มรวม 8 หรือ 9 ในฝั่งเพลเยอร์หรือแบงเกอร์ แล้วไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม ฝั่งนั้นจะชนะโดยอัตโนมัติ และถือว่าเกมจะจบลง ผู้ชนะเดิมพันจะได้รับเงินตามอัตราการจ่ายเงินของเกม
  • การจั่วไพ่ใบที่สาม การจั่วไพ่ใบที่สามจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อไม่มีฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้แต้มรวม 8 หรือ 9 ในไพ่สองใบแรก ซึ่งการจั่วไพ่จะขึ้นอยู่กับแต้มของอีกฝั่งด้วย
  • กฎไพ่ใบที่สามสำหรับฝั่งเพลเยอร์ ฝั่งเพลเยอร์จะได้รับไพ่ก่อนเสมอ และมีกฎว่าถ้าเพลเยอร์มีแต้มรวม 8 หรือ 9 ในไพ่สองใบแรก จะชนะทันทีและไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม แต่ถ้าฝเพลเยอร์ได้ 0 – 5 แต้มในไพ่สองใบแรก ต้องจั่วไพ่ใบที่สาม เว้นแต่ว่าฝั่งแบงเกอร์จะได้ 8 หรือ 9 แต้มในไพ่สองใบแรก
  • กฎไพ่ที่สามสำหรับแบงเกอร์ ฝั่งแบงเกอร์ได้รับไพ่หลังจากเพลเยอร์และจะมีกฎจั่วไพ่ที่ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ซึ่งเราจะอธิบายคร่าว ๆ ได้ดังนี้
  • ทำความเข้าใจไพ่ฝั่งชนะ ในเกมบาคาร่า ฝั่งที่มีแต้มรวมใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าได้ผลเสมอ ดีลเลอร์จะเก็บเงินที่แพ้และจ่ายให้กับผู้ชนะ นอกจากนี้ดีลเลอร์ยังจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 5% จากผู้ชนะเดิมพันในฝั่งแบงเกอร์เท่านั้น
บาคาร่าเป็นเกมที่มีวิธีการเล่นที่เรียบง่ายและไม่ต้องมีกลยุทธ์ซับซ้อน เริ่มต้นที่การวางเดิมพัน เลือกฝั่งแบงเกอร์ (Banker), เพลเยอร์ (Player) หรือเสมอ (Tie) เมื่อได้ไพ่แล้วคำนวณคะแนนเพื่อหาผู้ชนะ
ไพ่ J, Q, K และ 10 มีค่าเป็นศูนย์ ส่วนไพ่ 2-9 มีค่าตามเลขหน้าไพ่ และไพ่ A มีค่าเป็น 1 ถ้าแต้มรวมได้เกิน 10 ก็จะหักลบออกไปให้เหลือแต่เลขหลักหน่วย เช่น ไพ่ 9 และ 4 รวมเป็น 13 แต้มในบาคาร่าจะคิดเป็น 3 แต้ม
ฝั่งแบงเกอร์มีโอกาสชนะมากกว่าฝั่งเพลเยอร์ แต่ก็แลกมาด้วยการจ่ายค่าคอมมิชชั่นสำหรับคนที่แทงแบงเกอร์แล้วชนะ

บาคาร่าเป็นเกมที่เน้นโชคและการตัดสินใจเป็นหลัก และเนื่องจากเป็นเกมแบบสุ่ม ไม่มีกลยุทธ์ที่สามารถเพิ่มโอกาสชนะได้ 100% แต่การจำกัดการเดิมพัน ตั้งงบประมาณ และหยุดเล่นเมื่อแพ้ก็จะช่วยให้คุณเล่นได้ดียิ่งขึ้น

Leave a Comment